หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร .....เนื่องในงานวันคล้ายวันเกิด ศ.ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ


หลวงพ่อวิริยังค์  สิรินธโร  .....เนื่องในงานวันคล้ายวันเกิด ศ.ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ 19 ตุลาคม 2556

                                                            นักศึกษาหลักสูตร AEC 3 สถาบันพระปกเกล้า
                                                                            กรัณย์ สุทธารมณ์




 

เวลา 10.00 น.  ณ ห้องประชาธิปก สถาบันพระปกเกล้า

วันนี้จะให้พูดเรื่องอะไรนะ....หลวงพ่อ ถาม
……………..อาจารย์บวรศักดิ์  ตอบ  
จากนั้น….

..... โกง คือการทำบาป การผิดประเวณี การลักขโมย  การส่อเสียด ยุยง ก็เป็นบาป แม้ไม่อยากทำแต่พรรคพวกชวนทำ ไม่รู้จักดีชั่ว ชวนทำก็ทำ บาปเมื่อมันมีพรรคพวก ก็ก่อความวุ่นวาย คนเราสู้กันด้วยบุญวาสนา สู้กันไม่ได้ พี่น้องเกิดมายังแตกต่างกัน บุญวาสนาเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกะทันหัน แต่บุญก็ไม่ได้ทำโดยการบริจาคแต่เพียงอย่างเดียว การรักษาศีล การภาวนา การที่เราหาวิธีให้คนสามัคคีกัน มีเจตนาบุญ ลดละเกิดความคดโกง ไม่ละ ไม่ขโมย

พระพุทธเจ้าสอนว่า บุญเท่านั้นที่จะเป็นที่พึ่ง ทั้งโลกนี้และโลกหน้า บาปไม่เกิดประโยชน์ให้ใคร ความสามัคคีเท่านั้นที่ก่อให้เกิดความสุข ธรรมนูญของพุทธศาสนา มี 3 ข้อ ด้วยกัน คือ

1.       การไม่ทำความชั่ว  พวกที่ขโมย กินเหล้า ประพฤติลวงโกง ทำไมไม่หยุด เพราะไม่สามารถแก้พฤติธรรม คือ แก้พฤติกรรมไม่ได้ อสุภกิเลส หนาไปด้วยกิเลส

2.       การทำความดี เป็นบุญ

3.      การทำสมาธิ   ข้อที่ 3 นี่หล่ะ ถามว่าเพื่อประโยชน์อะไร ทำไมพระพุทธเจ้าถึงเน้นหนัก (ส่วนใหญ่ข้อสุดท้ายคือข้อที่มีความสำคัญสูง) ก็ถ้าพวกเราทำข้อนี้ให้ประจักษ์ ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็จะดี สมาธิไม่ใช้ของแปลกประหลาด สูงเกินไป หรือน่ากลัว จริงๆมีอยู่แล้วในทุกคน หากมนุษย์ไม่มีสมาธิธรรมชาติ จะอยู่ด้วยกันไม่ได้ ที่อยู่ได้นี้ เพราะสมาธิธรรมชาติ เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ เช่นถ้า มนุษย์ขาดสติ จะเป็นบ้า ขาดสติสัมปะชัญญะ ถ้ามีสติ ก็จะคุยกันรู้เรื่อง

หลวงพ่อเล่าว่า สมัยเด็กหลวงพ่อเรียนไม่เก่ง  ในบรรดาพี่น้อง 7 คน ทุกคนฉลาดหมด พ่อแม่จึงส่งไปเรียน ส่วนหลวงพ่อไม่ได้เรียน จึงไปเป็นลูกศิษย์วัด ไปอยู่วัดตอนแรกก็ไม่เก่ง หลังจากได้ฝึกสมาธิ ความจำก็ดีขึ้น ลายมือสวย เรียนเก่งขึ้น จากนั้นพ่อแม่จึงอยากจะส่งไปเรียน แต่ด้วยได้ตั้งจิตอธิษฐานไว้แล้วว่าจะบวช  ต่อมายังได้เกิดเส้นเลือดในสมองแตก จึงอธิษฐานว่าใครรักษาข้าพเจ้าให้หายได้ ก็มีหมอเป่า 3 ที่เท่านั้น ก็หาย จากนั้นหลวงพ่อจึงมุ่งศึกษาสมาธิให้แจ้งประจักษ์ อยู่ประมาณ  12 ปี จึงรู้สมาธิถูก สมาธิผิด เป็นอย่างไร วัตถุประสงค์ ก็ต้องการสอนประชาชน  คนโง่เป็นคนฉลาดได้   สมัยก่อนหลวงพ่อท่องบทสวดปาฎิโมก์ 15 วัน รอบเดียว (ปกติ 3 เดือน)  จึงสร้างหลักสูตรให้ผู้คนมาเรียนสมาธิ  Standard ใช้ได้ทั่วไป

แนวคิดของหลวงพ่อ คือ มนุษย์มีสมองที่ยอดเยี่ยมมาก หมื่นแสนล้านปีก็แล้วสัตว์ก็ยังแก้ผ้าอยู่ ในขณะที่ มนุษย์ สามารถพัฒนาจากแก้ผ้า มาใส่เสื้อ ใส่เสื้อมาเป็นแฟชั่น จากบ้านไม้กระต๊อบ ก็เป็นคอนโด เป็นคฤหาสน์ จากการเดิน ก็มาเป็นจรวด จากสภาพทั่วไป ก็เป็นการใช้ไฟฟ้า

เราเป็นมนุษย์ จึงควรพัฒนาสมาธิให้เป็น โดยอาจยังไม่ต้องไปคิดถึง วิปัสสนาเท่าไรก่อน ซึ่งวิปัสสนานั้นจะมุ่งไปที่ไม่เกิดแก่เจ็บตายอีก แต่ในโลกนี้มีมนุษย์อยู่ 6,000 ล้านคน ผู้ที่ปฏิบัติวิปัสสนามีเพียง 1 ล้าน หรือ 1 แสนคน (จะถึงรึป่าว)  ฉะนั้นเราจึงควรมาคำนึงถึงคนส่วนใหญ่ จะให้คนส่วนใหญ่ที่อยู่ในสังคมด้วยความขัดแย้งหรือเป็นทุกข์ ให้คนอยู่ร่วมกันอย่างดี  ด้วยสมาธิ หลวงพ่อใช้เวลา 20 ปี สำหรับหลักสูตรสมาธิ  เพื่อสร้างคน สร้างผู้สอน ถ้าคนนี้ไม่อยู่ คนอื่นๆก้อสอนได้ แผ่กระจายได้ จุดประสงค์ คือ การสะสมพลังจิต ในตัวเมื่อเราสงบ อารมณ์ล้นเหลือ นึกพุทโธ เหลือเป็นอารมณ์เดียว จิตก็จะเป็นสมาธิ จัดเป็นพลังจิต ทำต่อไปๆ สมาธิ พลังจิตก็อยู่กับเรา ชาตินี้ชาติหน้า  เป็นสัมมาสมาธิ (ฌาน1 – 4) อันดับแรก สร้างหลักสูตร ครูสมาธิ เรียนแล้ว กระจายกว้างขวาง หลักการที่แท้จริง เพื่อให้มวลมนุษย์ชาติ  เพื่อสร้างพลังจิตให้พอแก่การใช้งาน สามารถควบคุมจิตใจได้ ความขัดแย้งก็จะลดระดับพ้นขีดอันตราย เป็นประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว ประเทศชาติ และโลก เพราะถ้าควบคุมไม่ได้ ความขัดแย้งเพิ่มขึ้น เป็นอันตรายต่อประเทศ โลกได้

หลวงพ่อยืนยันว่า พุทธธรรมนูญ ข้อที่ 3 เป็นข้อที่สำคัญที่สุด เพราะถ้ามีข้อ 3 ความดีมันจะทำเอง เหตุผล เมตตา จะมาเอง พิสูจน์ได้ว่า ถ้ามีสมาธิแล้ว เราจะอยากสอนผู้อื่น จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด จะสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมได้อย่างแน่นอน

สวัสดี……………….

 
 

 

 

 

 

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม